วันนี้นั่งคิดเรื่องลดน้ำหนัก เลยนึกเรื่องเล่าย้อนหลังได้
"จูเลียน"
เหตุเกิด ณ เมืองโคโลญ
ขณะที่เรากำลังนั่งคิดนู่นคิดนี่เพลินๆอยู่บนเตียง ก็ได้รับข้อความจากผู้ชายคนนึงที่แมทช์กันบนทินเดอร์ ชวนเราออกไปเดท เค้าชื่อจูเลียน
วันรุ่งขึ้นเราก็ออกไปเจอจูเลียน เค้าเป็นนักจิตวิทยา ซึ่งก็น่าจะใช่จริงๆ เพราะเวลาเราถามคำถามเทสต์ความคิดเค้า เค้าเข้าใจอะไรๆเยอะมาก มีวิธีพูด วิธีคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์สูงมาก และสนใจเรื่องภายใน เราstalk เฟสบุ๊กนางก็เต็มไปด้วยการแชร์ความรู้ด้านจิตวิญญาน
จูเลียนเสร็จจากลูกค้าตอนบ่าย ก็มารับเราที่โรงแรม วันนั้นอากาศดีมาก ก็เลยชวนกันเดินไปหาที่นั่งเล่นกัน
ขณะที่เดินอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ เพื่อจะไปนั่งเล่นกันริมน้ำอีกฝั่งที่คนไม่พลุกพล่านและเห็นวิวโดม ก็คุยกันเรื่องการลดน้ำหนัก
เราบอกนางว่า เราต้องการ motivation ในการลดน้ำหนัก
นางสวนกลับมาว่า motivation ไม่ยั่งยืน ต้องหาไปเรื่อย หาเจอแล้วก็หมดไป แล้วต้องเหนื่อยหาใหม่อีก
สิ่งที่ยั่งยืน คือ passion ต่างหาก
เราก็อึ้งไปเล็กน้อย เราไม่เคยนึกถึงประเด็นนี้มาก่อนเลย จริงด้วยแฮะ เมื่อก่อนเราชอบยึดของภายนอกเป็นแรงขับ เช่น อยากลดน้ำหนักเพื่อผู้ชายที่แอบชอบ อยากลดน้ำหนักเพื่อจะได้ผอมๆเหมือนเอ็มม่า วัตสัน หรืออยากลดน้ำหนักเพื่อลบคำสบประมาทของเพื่อนผู้ชาย
แม้มันจะเป็นการทำเพื่อสนองนี้ดตัวเอง แต่มันคือการไล่ตามสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เอาคนอื่นเป็นจุดศูนย์กลาง ถึงเราจะผอมได้จริง ผู้ชายที่เราชอบเค้าก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าเราจะอ้วนจะผอม เอ็มม่า วัตสันก็ไม่ได้รู้จักเราเลย หรือเพื่อนผู้ชายที่มันว่าเราอ้วนมันก็ไม่ได้มาอยู่กับเราตอนเราร้องไห้เพราะรู้สึกแย่กับคำพูดของมัน ซึ่งพอเราร้องไห้เสร็จเราก็จะลืมมันไป
ซึ่งมันผิด และเราจะทำไม่สำเร็จเพราะเราเองที่ยึดอยุ่กับ motivation ที่มันเป็นความรู้สึกชั่วครู่ พอเราหายตื่นเต้นกับความรู้สึกนั้น เราก็จะเลิกฝัน เลิกทำ แล้วพอไม่สำเร็จ มันทำให้ self esteem เราต่ำลงเรื่อยๆ เพราะเราไปยึดคนอื่นมาเป็นเครื่องวัดคุณค่าของตัวเอง
เค้าเสริมอีกว่า ถ้ายูอยากลดน้ำหนัก ยูต้องหาว่า passion ของการลดน้ำหนักของยูคืออะไร
เออ Passion ของการลดน้ำหนักของเราคืออะไรวะ
มันคือตัวเราเองหรือเปล่า ... passion มันคือตัวเราเอง เราอยากมีสุขภาพที่ดี หาเสื้อผ้าสวยๆใส่ง่ายๆ เราอยากมีชีวิตที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมากมายนัก และเรารักการเล่นกีฬา !!!
เราก็เลยเชื่อมโยงความคิดนี้กับเรื่องหลายๆเรื่องที่เรากำลังสับสนอยู่ในชีวิตขณะนั้น ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องความรัก
พอเราเริ่มเเยก motivation กับ passion ออกจากกัน เรารู้สึกอิสระมาก เรารู้สึกว่าเรารักตัวเองมากขึ้นมากๆ เรามีความสุขมากขึ้น วิธีคิดของเราเปลี่ยนไปในบัดดล .....
.......
พอเดินลงจากสะพาน เรานั่งคุยกันอีกสามชั่วโมงกว่าอยู่ริมแม่น้ำไรน์ เค้าเป็นคนแรกที่คุยกับเราแล้วบอกว่า
"You are a freaking introvert,believe me"
ซึ่งตรงกับที่เราคิดเลย 555555555 ทุกคนจะบอกว่า ดาร์ลี่เป็น extremely extrovert และเราก็มั่นใจว่าเราใช่ แต่บางมุม เราแอบคิดว่าเราเป็น Introvert ต่างหาก และจูเลียนเป็นคนแรกที่มองออก และที่สำคัญ ไม่เชื่อนักจิตวิทยาก็ไม่รู้จะไปเชื่อใคร ไม่เชื่อตัวเองที่รู้จักตัวเองที่สุด จะไปเชื่อใคร
พอเริ่มมืด เราก็เดินข้ามสะพานที่เต็มไปด้วยกุญแจอฐิษฐานเรื่องความรัก เดินดูกุญแจรูปร่างตลกๆ เล่นมุกกัน หัวเราะกัน
เราแวะไปกินอาหารไทย เค้านั่งมองเรากิน แล้วก็พูดว่า แปลกดีเนาะ นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน
อืม แปลกดีจริงๆ ที่เราได้เจอคนแปลกหน้าที่สามารถมาเปลี่ยน attitude เราได้
พอกินเสร็จ จูเลียนก็เดินมาส่งเราที่โรงแรม เราบอกลา
เรากล่าวขอบคุณ
ขอบคุณจริงๆ #EuropeChangesMe
ขอบคุณจริงๆ #EuropeChangesMe
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น