แรงบันดาลใจในการเรียนปริญญาโทจากการตกผลึกของความคิด
เมื่อสองวันก่อน เราได้มีโอกาสไปช่วยอาจารย์ด้าน entrepreneur ที่ มทส. ดูหลักสูตรและช่วยโค้ชน้องนักศึกษา ทั้งสองวันคือการใช้เครื่องมือที่เราแสนคุ้นเคย ลำดับความคิดที่เราแสนคุ้นเคย รวมทั้งคอนเนคชั่นที่เราแสนคุ้นเคย อันได้จากการทำงานด้านนี้มา
สนุกมากและสำหรับบางคนมันเป็นเรื่องใหม่
แต่สำหรับเรามันเป็นเรื่องเก่า... มันคือความรู้ชุดเดิมที่เราขลุกvยู่กับมัน มาปีกว่า
แต่สำหรับเรามันเป็นเรื่องเก่า... มันคือความรู้ชุดเดิมที่เราขลุกvยู่กับมัน มาปีกว่า
นึกย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือน เราได้มีโอกาสไปช่วยเป็นโค้ชค่าย entrepreneur แล้วได้ไปรวมตัวเป็นแก๊งกับพี่อีก 3 คน ( ชื่อเเก๊ง auda ออกเสียงให้ลามกเข้าไว้ ) คืนสุดท้ายของค่าย เรานั่งกินเบียร์ และมีเรื่องนึงที่น่าสนใจ
เราพูดถึงการพัฒนาตัวเอง เราพูดถึง content เจ๋งๆที่แต่ละคนมี เราเห็นคนหลายคน ที่เคยเป็นที่ฮือฮาในสังคมมาก ได้รับเชิญไปบรรยายที่นู่น ที่นี่ ที่นั่น เพราะ content ของเค้าน่าสนใจ
แต่ตอนนี้คนเหล่านั้นหายไป ... หลายคนพยายามอย่างหนักที่จะกลับมา แต่ทำไม่ได้ เพราะ...
เค้าไม่มีเนื้อหาอะใหม่ๆมานำเสนอ ในขณะที่ คนอื่นๆหรือคนใหม่ๆ มีเนื้อหาใหม่ๆ มานำเสนอเรื่อยๆ เนื้อหาของคนเหล่านั้นในเวลาไม่นาน ก็กลายเป็นเครื่องมือเก่า ใช้ได้ผลไม่ดีเท่าเครื่องมือใหม่
มันฝังในหัวเรามาก ใช่เลย ในสมัยก่อน เราตื่นเต้นมากเวลาเข้า workshop ที่มีการนำเครื่องมือนู่นนี่มาใช้ เราคิดว่ามันสุดยอดที่สุดในโลก
พอนานๆเข้า เราเริ่มคุ้นเคย และเห็นเครื่องมือหรือชุดความรู้อื่นๆมากขึ้น เราจับผิดเครื่องมือเดิมๆได้ ในขณะที่บางคน มีเครื่องมือหรือชุดความรู้หรือ content ใหม่ๆ มาสอนเราอยู่เสมอ
รู้สึกเลยว่า การพัฒนา content ของตัวเราเอง สำคัญต่อการพัฒนาชุดความรู้โดยรวม
เราจึงตั้งใจอ่านหนังสือให้เยอะ เหมือนพี่ๆหลายคนที่รู้เยอะๆ และสามารถตกผลึกเอาความรู้เหล่านันมารวมกันและสร้าง content ที่น่าสนใจได้
แต่ตอนนี้คนเหล่านั้นหายไป ... หลายคนพยายามอย่างหนักที่จะกลับมา แต่ทำไม่ได้ เพราะ...
เค้าไม่มีเนื้อหาอะใหม่ๆมานำเสนอ ในขณะที่ คนอื่นๆหรือคนใหม่ๆ มีเนื้อหาใหม่ๆ มานำเสนอเรื่อยๆ เนื้อหาของคนเหล่านั้นในเวลาไม่นาน ก็กลายเป็นเครื่องมือเก่า ใช้ได้ผลไม่ดีเท่าเครื่องมือใหม่
มันฝังในหัวเรามาก ใช่เลย ในสมัยก่อน เราตื่นเต้นมากเวลาเข้า workshop ที่มีการนำเครื่องมือนู่นนี่มาใช้ เราคิดว่ามันสุดยอดที่สุดในโลก
พอนานๆเข้า เราเริ่มคุ้นเคย และเห็นเครื่องมือหรือชุดความรู้อื่นๆมากขึ้น เราจับผิดเครื่องมือเดิมๆได้ ในขณะที่บางคน มีเครื่องมือหรือชุดความรู้หรือ content ใหม่ๆ มาสอนเราอยู่เสมอ
รู้สึกเลยว่า การพัฒนา content ของตัวเราเอง สำคัญต่อการพัฒนาชุดความรู้โดยรวม
เราจึงตั้งใจอ่านหนังสือให้เยอะ เหมือนพี่ๆหลายคนที่รู้เยอะๆ และสามารถตกผลึกเอาความรู้เหล่านันมารวมกันและสร้าง content ที่น่าสนใจได้
นั่นคือจุดที่ทำให้เรา มองเห็นภาพของตัวเองในอนาคต ว่าจะยืนอยู่จุดไหนของสังคมและกำลังทำอะไรอยู่ คนแบบไหนที่เราอยากจะเป็น มีความสุขและเป็นประโยชน์ต่อสังคม
พอทำงานสายที่ชอบมาได้เกือบสองปี สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราเริ่มรู้เรื่องรู้ราว เราเริ่มมีชุดความคิดของเราเอง เราเริ่มเห็นทางไปต่อ แล้วเราจะเริ่มรู้สึกตัวได้เอง ว่า ... โอเค จุดนี้แหละ คือจุดที่ต้องไปเรียนต่อแล้วล่ะ
เราจะตั้งใจสมัครทุนเรียนปริญญาโทอย่างจริงจังมากในปีนี้
การที่ถูกถามอยู่บ่อยครั้งว่าทำไมไม่ต่อโทสักที เพราะเช่นนี้เเล ...
ปริญญาโทสำหรับเราคือการต่อยอดการทำงาน การค้นหาความรู้ใหม่ๆ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อให้เกิดการพัฒนาตัวเอง แล้วเอามาใช้ได้จริง เราจึงไม่อยากที่จะเรียนปริญญาโท ทั้งๆที่ประสบการณ์ทำงานน้อย กลัวว่าจะไม่มีอะไรไปแลกเปลี่ยนในคลาส กลัวไม่มีวัตถุดิบไปต่อยอด และกลัวเลือกคอร์สผิดกับการนำมาใช้จริง ผ่านการอ่านคอร์สมาเยอะ ผ่านความสับสนมาเยอะ ผ่านการปรึกษาคนนู้นคนนี้มาเยอะ
ปริญญาโทสำหรับเราคือการต่อยอดการทำงาน การค้นหาความรู้ใหม่ๆ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อให้เกิดการพัฒนาตัวเอง แล้วเอามาใช้ได้จริง เราจึงไม่อยากที่จะเรียนปริญญาโท ทั้งๆที่ประสบการณ์ทำงานน้อย กลัวว่าจะไม่มีอะไรไปแลกเปลี่ยนในคลาส กลัวไม่มีวัตถุดิบไปต่อยอด และกลัวเลือกคอร์สผิดกับการนำมาใช้จริง ผ่านการอ่านคอร์สมาเยอะ ผ่านความสับสนมาเยอะ ผ่านการปรึกษาคนนู้นคนนี้มาเยอะ
วิดีโอด้านล่างนี้คือคอร์สที่เราเจอแล้วว่าใช่หลังจากตามหาคอร์สเรียนปริญญาโทมั่วไปมั่วมา(นานมาก) บ้างก็เกือบใช่ บ้างก็ไม่ใช่ และใช้เวลาตกผลึกตัวเองมาร่วมปีว่าอยากเรียนแบบไหนกันแน่ จากการทำงานและประสบการณ์
คอร์สนี้ได้รับการแนะนำจากพี่ต้น THAIST ( ขออนุญาตไม่แท็กเดี๋ยวรกวอลล์พี่) และพี่ปอแห่ง SUT รวมทั้งแรงบันดาลใจเล็กๆที่ทำให้เราชูประเทศสวีเดนอยู่ในใจเสมอของเจ้วาว FarmerDo ศิษย์เก่า Uppsala
ทว่าเมื่อได้ดูวิดีโอนี้แล้ว.... ทำให้เราได้พบความจริงอันน่าตื่นเต้นและน่ากลัวไปพร้อมๆกันว่า
โลกภายนอกนั้น มีคนที่อายุใกล้เคียงกับเรา คนที่เรียนโทคอร์สนี้ แม่งมีแต่คนเก่งๆ ดูเป็นมืออาชีพ ดูพร้อม ทำให้เราหวนนึกถึงสิ่งที่ตกผลึกได้เมื่อวานตอนขับรถนั่นแหละ ว่าเห้ย ถ้าเราได้ไป จะเป็นตัวถ่วงเขาไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้เป็นคนที่นำ เราก็ต้องเป็นคนที่เสมอ เรามีเวลาอีกปีกว่าที่จะขยันหาความรู้เพื่อเตรียมตัวไปหาความรู้ จะมาชิวๆ นั่งกินนอนกิน อยู่บนความรู้เดิมๆของตัวเองไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่โลกหมุนไว และตอนนี้ที่เราไม่ได้อยู่เป็นน้องของพี่ที่าดีอีกแล้ว เราไม่สามารถวิ่งไปฟ้องพี่ ให้พี่สอนตลอดเวลาเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
โลกภายนอกนั้น มีคนที่อายุใกล้เคียงกับเรา คนที่เรียนโทคอร์สนี้ แม่งมีแต่คนเก่งๆ ดูเป็นมืออาชีพ ดูพร้อม ทำให้เราหวนนึกถึงสิ่งที่ตกผลึกได้เมื่อวานตอนขับรถนั่นแหละ ว่าเห้ย ถ้าเราได้ไป จะเป็นตัวถ่วงเขาไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้เป็นคนที่นำ เราก็ต้องเป็นคนที่เสมอ เรามีเวลาอีกปีกว่าที่จะขยันหาความรู้เพื่อเตรียมตัวไปหาความรู้ จะมาชิวๆ นั่งกินนอนกิน อยู่บนความรู้เดิมๆของตัวเองไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่โลกหมุนไว และตอนนี้ที่เราไม่ได้อยู่เป็นน้องของพี่ที่าดีอีกแล้ว เราไม่สามารถวิ่งไปฟ้องพี่ ให้พี่สอนตลอดเวลาเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
เพราะถึงจะไม่ได้เข้าเรียน ก็ได้กำไรจากการพัฒนาตัวเองอยู่ดี
แต่อย่างไรเสีย วาดฝันเอาไว้สูงสุดว่าอยากได้ทุน เพราะไม่มีกะตังจะจ่ายเอง ทำได้ไม่ได้ไม่ทราบ แต่หวังไว้สูงมากๆ ยังไงก็ต้องไปให้ได้ ....
จบการระบายความอึดอัดเพียงเท่านี้ ห้าๆๆ
จบการระบายความอึดอัดเพียงเท่านี้ ห้าๆๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น