รีวิว The Alienist : สุดยอด สุดยอดจริงๆ ประโยคและภาพใน Scene เกือบสุดท้าย ยังจี๊ด ยังติดอยู่ในสมอง ทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน ดูชื่อคนเขียนบทแล้วก็ อ๋อออ เทพทั้งนั้น เป็นซีรีส์เรื่องแรก(ที่นี่เคยเห็น)ที่เล่นเรื่อง Sexual Pathology ชัดๆ
"We set out to find a monster, but all we found was a wounded child." ...
เป็นซีรีส์ที่ไม่ยาวมาก ไม่ยืดเยื้อ ไม่เสียเวลา ไม่ได้เกี่ยวกะเอเลี่ยนแต่เป็นหนังสืบสวนสอบสวนจิตวิทยา มีกลิ่นของ Sherlock อาจจะไม่หวือหวาและตลกเท่า แต่ก็มีด้านกดดัน เล่นกับความคิดคนดูเยอะกว่า ผสมกับบรรยากาศการสืบสวนและความเป็นมนุษย์ของคนในทีมอย่าง How to get away with murder
ตัวเนื้อหาหลักๆเป็นเรื่องการสืบหา Serial killer (ในเรื่องเรียก multi killer เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีคำศัพท์ทางการ) บวกกับฉากหลังเป็นนิวยอร์กยุคเปลี่ยนผ่านจาก 80 (17xx) สู่ 90 (18xx) ทำให้หนังประกอบด้วยประเด็นอันกลมกล่อมต่อไปนี้ (มีสปอยล์นิดหน่อย ถ้าอยากได้อรรถรสสุดๆจากการตีความเอง ควรข้ามไปล่างสุดได้เลย)
- หลักๆคือเรื่องการพัฒนาจากเด็ก ที่มีไม่ได้ผิดปกติอะไร สู่โรคจิตนักฆ่า ปีศาจ เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือของหน่วยที่เล็กที่สุดอย่างครอบครัว คนใกล้ตัว คนที่เด็กเชื่อใจ .. การพัฒนาตัวตนของคนคนหนึ่ง เกิดจากสิ่งแวดล้อมที่ถาโถมและความรักที่ไม่เพียงพอ (ซึ่งความรู้นี้ ผ่านมาสองสามร้อยปี ก็ยังไม่เป็นที่เข้าใจต่อสาธารณชนมากนัก)
- กระบวนการยุติธรรมที่ล้าหลังไม่พอ ยังเกิดคอร์รัปชันซะจนบิดเบี้ยวไปหมด และคนรวยก็มีอำนาจมากจนควบคุมกระบวนการยุติธรรมได้
- คนรุ่นเก่าไม่ยอมรับแนวคิดแง่มุมใหม่ สาขาวิชาใหม่ๆ มีพื้นที่ไม่มากนัก
- บทบาทสื่อและมุมของคนที่มีสื่อในมือกับมุมคนทำงาน
- ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่สูงมากกกกก ในหนังสะท้อนชัดมาก ซึ่งเป็นสิ่ง Drive ให้เกิดปัญหาสังคมเยอะมาก ในเรื่องที่เห็นคือ ความแออัด ปัญหา Health care อาชญากรรมต่างๆ เด็กลักขโมย กะหรี่เด็ก(ผู้ชาย) เป็นต้น
- เหยียดเชื้อชาติหนักมากกกกกก
- เหยียดเพศหนักมากกกกกกกกกกกกกกก (เป็นช่วงที่ผู้หหญิงเริ่มรณรงค์เรียกร้องสิทธิ์) และ Sexual harassment ในที่ทำงานเป็นเรื่องที่เจอทุกวัน (แม้แต่จะทำงานใน 'กรมตำรวจ' ก็ตาม !!
- ทั้งหมดนี้มีความย้อนแย้งกับความเชื่อและศาสนามาก มีหลายฉากที่ตัวหลัก Turn down นักบวช
- กระบวนการยุติธรรมที่ล้าหลังไม่พอ ยังเกิดคอร์รัปชันซะจนบิดเบี้ยวไปหมด และคนรวยก็มีอำนาจมากจนควบคุมกระบวนการยุติธรรมได้
- คนรุ่นเก่าไม่ยอมรับแนวคิดแง่มุมใหม่ สาขาวิชาใหม่ๆ มีพื้นที่ไม่มากนัก
- บทบาทสื่อและมุมของคนที่มีสื่อในมือกับมุมคนทำงาน
- ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่สูงมากกกกก ในหนังสะท้อนชัดมาก ซึ่งเป็นสิ่ง Drive ให้เกิดปัญหาสังคมเยอะมาก ในเรื่องที่เห็นคือ ความแออัด ปัญหา Health care อาชญากรรมต่างๆ เด็กลักขโมย กะหรี่เด็ก(ผู้ชาย) เป็นต้น
- เหยียดเชื้อชาติหนักมากกกกกก
- เหยียดเพศหนักมากกกกกกกกกกกกกกก (เป็นช่วงที่ผู้หหญิงเริ่มรณรงค์เรียกร้องสิทธิ์) และ Sexual harassment ในที่ทำงานเป็นเรื่องที่เจอทุกวัน (แม้แต่จะทำงานใน 'กรมตำรวจ' ก็ตาม !!
- ทั้งหมดนี้มีความย้อนแย้งกับความเชื่อและศาสนามาก มีหลายฉากที่ตัวหลัก Turn down นักบวช
จะเห็นว่า ประเด็นเหล่านี้ ผ่านมาสองสามร้อยปี ก็ยังเหมือนเดิม เจ็บปวดยิ่งนัก
ในส่วนดารา มีเบอร์ใหญ่หลายๆคน (และผู้ชายหล่อหลายคน)
- Daniel Brüh มาตรฐานดีมาก นางเป็นคนที่เหมาะกับหนังที่ต้องซูมหน้าจริงๆ
- Luke Evans ยังคงงานดีเหมือนเดิม 555 โอ้ยยย พ่อคุณ คราวนี้ดูมีความซนนิดๆ ด้วย เหมาะมาก
- Dakota Fanning คือ ดีมากกกกก คือ นางคือ Mryl Streep คนต่อไป สาธุ (นี่แคปฉากที่ซูมหน้านางไว้ด้วย ไม่แต่งหน้า คิ้วไม่กรร ไม่เขียน อีดอก สวยกว่ากูหน้าเต็มมาก)
- Brian Geraghty แสดงเป็น (Teddy) Theodore Roosevelt คิดว่าหล่อไปหน่อย ขี่ม้าเก่งมาก Jump สวย 555 แต่เวลาแสดงนางสื่อสารทางตาดีมากกก จนลืมความหล่อ
- Douglas Smith เพิ่งดู Percy Jackson ไปปเมื่อวันก่อน ไม่คิดว่านางจะมาอยู่ในเรื่องนี้ คือเปลี่ยนลุคแล้วหล่อสัสๆ น่ารักแบบละสายตาไม่ได้ แสดงก็ยังซนๆน่ารักๆเหมือนเดิม แต่คราวนี้มีบางซีนที่กดดัน ก็ทำได้ดีมาก
- Bill Heck ออกชัดๆฉากเดียวแต่แบบ Damnnnn . You kill it, man !
- Daniel Brüh มาตรฐานดีมาก นางเป็นคนที่เหมาะกับหนังที่ต้องซูมหน้าจริงๆ
- Luke Evans ยังคงงานดีเหมือนเดิม 555 โอ้ยยย พ่อคุณ คราวนี้ดูมีความซนนิดๆ ด้วย เหมาะมาก
- Dakota Fanning คือ ดีมากกกกก คือ นางคือ Mryl Streep คนต่อไป สาธุ (นี่แคปฉากที่ซูมหน้านางไว้ด้วย ไม่แต่งหน้า คิ้วไม่กรร ไม่เขียน อีดอก สวยกว่ากูหน้าเต็มมาก)
- Brian Geraghty แสดงเป็น (Teddy) Theodore Roosevelt คิดว่าหล่อไปหน่อย ขี่ม้าเก่งมาก Jump สวย 555 แต่เวลาแสดงนางสื่อสารทางตาดีมากกก จนลืมความหล่อ
- Douglas Smith เพิ่งดู Percy Jackson ไปปเมื่อวันก่อน ไม่คิดว่านางจะมาอยู่ในเรื่องนี้ คือเปลี่ยนลุคแล้วหล่อสัสๆ น่ารักแบบละสายตาไม่ได้ แสดงก็ยังซนๆน่ารักๆเหมือนเดิม แต่คราวนี้มีบางซีนที่กดดัน ก็ทำได้ดีมาก
- Bill Heck ออกชัดๆฉากเดียวแต่แบบ Damnnnn . You kill it, man !
คนอื่นๆที่มาประกอบด้วยก็ลงตัวเหมือนกัน คือ นักแสดงไม่เยอะมาก และรู้สึกผูกพันกับทุกตัว ทุกตัวจริงๆ ชอบมาก
เสื้อผ้าหน้าผม ดีไปหมด ฉากเฉิก(ถ่ายที่บูดาเปสต์) ดี สวย ไม่รู้ทุนเท่าไร แต่น่าจะมากโขอยู่ 555
ดนตรีพอดีมาก บางทีเงียบ บางทีเร้ามากแล้วจังหวะคือโคตรรรรรรรรรรรร ดี บางฉากน้ำตาไหนเพราะดนตรี แล้วรายละเอียดในหนังเยอะมาก บางทีดูๆไปช่วงพีคๆรายละเอียดแม่ง Flashback มา
พิมพ์ไปก็.. นึกถึงไป ตั้งแต่เมื่อคืนที่นอนไม่หลับ ฉากและเสียงท้ายๆเรื่องยังติดตาติดหูอยู่ แค่นึกถึงก็น้ำตาคลอแล้ว สงสัยจะเป็นไปอีกหลายวัน
' We set out to find a monster, but all we found was a wounded child '
' We set out to find a monster, but all we found was a wounded child '
' We set out to find a monster, but all we found was a wounded child '
' We set out to find a monster, but all we found was a wounded child '
' We set out to find a monster, but all we found was a wounded child '
' We set out to find a monster, but all we found was a wounded child '
.......
รอ Season 2
https://www.youtube.com/watch?v=K1HeKXhsXFo
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น