วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562

ความรักของฉัน จับมันโยนทะเล - part 2 The Oasis Khaolak Resort


ปกติเราใช้ booking.com ในการจองที่พัก เห็น The Oasis Khaolak Resort ได้รับรีวิวดีมากกกก เช็คในแผนที่แล้วไม่ไกลจากถนนใหญ่ ไม่ได้อยู่ติดที่เที่ยวแต่ไม่ไกลเลย (เราชอบนอนห่างจากที่เที่ยวออกมาอยู่แล้ว) มีจักรยาน มีมอไซค์ ราคาดีมาก ก็รีบจองเลย

มาถึงรีสอร์ทบ่ายๆยังไม่ได้กินข้าว หิวมาก ไม่ค่อยมีอารมณ์ แต่ก็ใจชื้นขึ้นมาที่พบว่ารีสออร์ทดูดีกว่าในรูปอีกแฮะ สวย  ดูเป็นรีสอร์ทที่เพิ่งสร้างใหม่ 

เราเดินเขาไปในห้อง reception ก็ได้เจอกับน้องแหวนและน้องบาสมาต้อนรับ ทำความรู้จักกัน ตัวเราเองไปที่นั่นพร้อมกับอารมณ์ที่ไม่ได้อยากยุ่งกับใคร เราคาดหวังว่าจะอยู่คนเดียว จะจมปลักและขอพังอยู่กับอารมณ์ พนักงานต้อนรับที่นี่กลับทำลายความคาดหวังของเราซะสิ้นด้วยการพูดว่า 

(กรุณาอ่านเป็นสำเนียงใต้) "พี่ลี่จะไปกินข้าวมะไหร่ เดี๋ยวผมพาไป ผมว่าง" น้องบาสพูด 

ด้วยความงงของเราเลยตอบไปว่า 

"เออ งั้นพี่ขอพักแปปนึงเดี๋ยวออกมา"  55555

น้องบาสพาเราไปที่ห้องของตัวเอง เป็นบ้านหลังนึงเลยก็ว่าได้ ห้องสภาพดีมากๆ ใหม่มาก ข้าวของครบครัน หน้าห้องมีสระว่ายน้ำเล็กๆไว้ให้แช่เล่นอีกต่างหาก

จัดการตัวเองเสร็จก็เดินกลับไปหาน้องๆเพื่อออกไปกินข้าวกัน ตกใจมาก เรานึกว่าน้องจะเอามอ'ไซค์พาไป ..

มันเอาซาเล้งมาาาาาาาาาาาาาา 55555555

สรุปว่าคืนนั้น มีเรา น้องบาสน้องแหวน และแขกอีกคน

นั่งซาเล้งไปกินข้าวสนุกมากๆ เสียวดี 555 แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าใครเฝ้ารีสอร์ท ... ถามน้องๆ มันบอกว่า ... แขกไม่ค่อยมีแล้วเพราะเป็นหน้าโลว์ เฝ้าไปก็ไม่มีประโยชน์ แค่อย่าให้แม่รู้ก็พอว่าหนีออกมาเที่ยว (หลังจากนั้นแม่ก็รู้และโทรมาด่าอยู่ดี 55)

หลังจากกินข้าว ชมอะไรนิดหน่อย น้องๆก็พาไปดูหาดทรายสีดำ ที่พอตกกลางคืนจะเกิดแสงระยิบระยับที่สะท้อนแสงจันทร์ เหมือนเป็นภาพสะท้องของจักรวาล ดีงามมากๆ

เรากลับมากันที่รีสอร์ท ก็คุยกับน้องไปว่า พรุ่งนี้พี่จะไปเล่นเซิร์ฟ จะขอยืมจักรยาน

น้องมันตกใจ และบอกว่าไกลอยู่ จะไปส่ง

เราก็บอกว่า ไม่เป็นไร พี่ไปเอง (พี่มาเพื่อดราม่าอยู่แล้ว)

แต่น้องมันไม่ยอมให้เราดราม่าเลย มันจะไปส่ง เพราะมันจะไปเล่นด้วย! 555

น่ารักจริงๆ







Body shaming society

[ ยาว - เรื่องการถูก Body Shaming บ่อยๆ จนเป็นTrauma ]
เรา Realize ไม่นานมานี้ ว่าการถูก Body Shaming เยอะๆ แม่งสามารถเป็น Trauma ที่รุนแรงได้ (สังเกตว่าเราบ่นเรื่องนี้บ่อยมาก) และพี่ๆที่อยู่กับเราเสมอเวลาเรา Lost จะรู้ดีว่าเวลาเราเศร้า ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม เราจะเริ่มเกลียดตัวเองโดยอัตโนมัติ จะคิดว่าตัวเองไม่สวย เราจะเริ่มเชื่อมโยงทุกเรื่องในชีวิตเข้ากับความไม่สวยของเรา และเริ่มประสาทแดก self esteem ต่ำ กว่าจะปีนกลับขึ้นมากได้ ลำบากมาก ๆ
เราโดนพูดใส่เสมอ ตั้งแต่เด็กๆ (ประถม มัธยม มหาลัย วัยทำงาน โดนมาตลอด โดนจากทุกคน ครอบครว เพื่อน ฯลฯ) ว่าไม่สวยยังไงบ้าง ควรไปทำศัลยกรรมตรงไหน ควรลดน้ำหนัก ควรไปแต่งหน้า ควรนู่นควรนี่ควรนั่น วันนี้หน้าเหมือนผี วันนี้เหมือนป่วย จนประสาทแดก เอาชีวิตไปผูกกลับเปลือกของตัวเองตลอดเวลา และลึกๆเป็นคนที่ไม่รักตัวเอง ไม่เชื่อในตัวเอง หลายครั้งแสดงออกมาจนมีคนทักว่าเป็น Imposter Syndrome หลายๆครั้งไม่มีความสุขกับการแต่งตัวสวย หลายๆครั้งก็ขาดๆเกินๆเรื่องนี้ และคนสนิทจะรู้ว่าเราโกรธง่ายมาก ถ้าใครว่าว่าเราไม่สวย
หลังๆ พอเรา Stand up กับเรื่องนี้มากขึ้น เราถูกพูดกลับว่า คิดมากเกินไป, เอาตัวเองไปผูกกับเรื่องความสวยไม่สวยเกินไป,ไม่เก็ทโจ๊ก ฯลฯ
เราจะบอกว่า มนุษย์มีเส้น ไม่เท่ากัน ความ 'เกินไป' ของแต่ละคนไม่เท่ากัน
นอกจากถูกหาว่าท้องเพราะความอ้วนหลังคลอด Chrissy Teigen เคยสะท้อนในวิดีโอนึง เราจำได้ถึงเรื่องที่เค้าถูกถามว่า 'จะมีลูกเมื่อไหร่' นางบอกว่า สิ่งเหล่านี้ ไม่ควรมาเป็นคำถามเลย เพราะคุณไม่มีทางรู้ ว่าคนที่คุณกำลังถาม เค้าอยู่ในภาวะไหน
สำหรับบางคน มันอาจจะเป็นคำถามที่โอเค แต่สำหรับบางคน เค้าอาจจะอยู่ในภาวะมีลูกยากและกำลังทุกข์กับเรื่องนี้อยู่ แล้วเหมาะสมหรือ กับการถามคำถามพวกนี้ รู้แล้วได้อะไร ?
เช่นเดียวกับเรือง อ้วน เรื่อง ไม่สวย เรื่องอะไรต่างๆ ที่มันกระทบกับจิตใจคนไม่เท่ากัน และเป็นเรื่องที่ก็รู้อยู่แล้วว่า Sensitive จะบอกให้ว่า การพูดถุึงเรื่องนี้ ไม่ว่าจะในเชิงแซวตลก หรือเชิงหวังดีจริงๆ ไม่ว่า React จะเป็นยังไง ก็เจ็บ และกลายเป็น Trauma ได้ในที่สุดถ้าโดนบ่อยๆแบบเรา แล้วมันทรมานนะเว้ย มันเกิดขึ้นจริงๆ
แล้วคิดหรอ ว่ากรูไม่รู้ว่าตัวเองอ้วน ไม่รู้ว่าตัวเองไม่ perfect ตรงไหน ?
ดังนั้น เวาว่าใครอ้วนแล้วอ้างว่าหวังดี อย่าพูดดีกว่า ไม่มี added value ใดใด เอาจริงๆ กลับไปถามตัวเองเถอะ ว่าเวลาไปล้อหรือไปว่าใคร แล้วใช้คำว่าหวังดีมาอ้างเป็นเหตุผล มันใช่จริงๆหรอ หรือแค่อ้างเพราะรู้สึกผิดที่พูดแบบนั้นออกไป
เอาตรงๆนะ ลึกๆก็รู้อยู่แล้ว ว่าพูดเพราะเหยียด จะตั้งใจหรือไม่ ก็เหยียดไปแล้ว
เวลาเราโพสต์ว่าเราน้ำหนักขึ้น มันแปลว่าเราอยากได้ Support นะ ไม่ใช่อยากโดนเหยียด
หลังๆเวลาโดน เราจะไปฟ้องเพื่อนฝรั่งทุกที ไม่รู้ทำไมผู้ชายฝรั่งที่เรารู้จักมี Attitude ที่ดีมากๆ (นั่นเป็นอีกเหตุผลที่เราชอบ ฝ. เพราะที่ผ่านมา เวลาโดน Body Shaming จะเป็น ผช.ไทย และทำให้เเรารู้สึกไม่โอเคกับผช. ไทยในภาพรวมไปเลยยยย คือเห็น ผช. ไทยจะเริ่มตัดสินไปละ ว่า Attitude ไม่ได้แน่นอน หลอนไปเลย )
ทุกครั้งที่เราอยู่กับผู้ ฝ. เราจะเผลอดูถูกตัวเองให้เค้าฟังบ่อยๆ แล้ว React เเต่ละคนจะแปลกใจ ตกใจ และ Feedback 100% จะประมาณว่า
- Be yourself. I love the way you are.
- You are perfect
- Your skin is so smooth .
- You have a pretty face.
- No worries, To me you are sexy .
- I like you whether you are wearing make-up or not
- I like you, you can lose your weight if you want to but it doesn't matter.
นี่ไม่ใช่พวกผู้ชาย One night stand นะ นี่คือพวกผู้ชายที่เจอกันในชีวิตจริง อยู่กัน ใช้ชีวิตเป็นเพื่อนกัน และเค้าเป็นแบบนี้กันสม่ำเสมอ และทรีทเราดีแบบนั้้นจริงๆ
เราเพิ่งดูซีรีส์อังกฤษเรื่อง Sex Education มา มี Scene นึงที่น่าสนใจมากๆ คือ มีคู่รักเด็กน้อยคู่นึง พยายามมีSex กัน แต่เด็กผู้หญิงไม่อยากเปิดไฟ เพราะ 'อับอาย' และ 'เกลียด'ร่างกายของตัวเอง เธอบอกแฟนของเธอว่า มัน 'Disgusting'
เมื่อถามเด็กผู้ชาย เด็กผู้ชายบอกว่าเค้าอยากเปิดไฟ เค้าอยากเห็นเรือนร่างของคนที่เค้ารัก ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไรเค้าก็ชอบ จริงๆเค้าชอบทุกอย่างของเธอ บุคลิก สมอง ร่างกาย ชอบทุกอย่าง
แต่เด็กผู้หญิงไม่เชื่อ และยังคงยืนยันว่า มัน Disgusting ทั้งสองคนทะเลาะกัน
คือ เหมือนเรามาก และเราคิดว่า หลายคนเป็น
เราชอบปิดไฟ 555 เพราะเรารู้สึกแบบเดียวกันกับเด็กผู้หญิงคนนี้เลย เราเกลียดร่างกายตัวเอง จนกระทั่งได้มาเจอ ฝ. หลายๆคนช่วงหลัง ที่ Support เราเสมอ ทำให้เราเริ่มรักตัวเองมากขึ้น don't give a shit มากขึ้น เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ และกล้าเดินแก้ผ้าไปมาในห้องที่มีผู้อยู่ได้ อาบน้ำกับผู้ได้โดยไม่รู้สึกแย่ โดยไม่รู้สึกขยะแขยงตัวเองหรืออยากปิดบังซ่อนเร้นร่างกายของตัวเอง จากที่แต่ก่อนคือ ไม่ได้เลย ถ้าไม่ปิดไฟ คือไม่ถอดให้ใครเห็นอะไรเลย อาบน้ำกับคนอื่นคือ ไม่มีทาง
มันนำมาซึ่งผลลัพธ์หลายอย่างที่ไม่น่าเชื่อ หลายคนบอกว่า เราดูมีเสน่ห์ขึ้น เพราะเรามีความสุขขึ้น เราไม่เปรียบเทียบตัวเองกับใคร เรารักตัวเอง เหมือนในเรื่อง Sex Education ที่ทุกคนภูมิใจและตะโกน 'It's my vagina' !!!!! เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการ Embrace ร่างการของตัวเอง
คิดดูสิ คำพูดเล็กๆในความคิดคุณ ทำให้คนบางคน เกลียดตัวเอง ขยะแขยงตัวเองได้ มันส่งผล ต่อทุกเรื่องในชีวิตเค้านะ เรื่องความสัมพันธ์ เรื่องความมั่นใจ เรื่องการใช้ชีวิต ทุกเรื่องจริงๆ เพราะทุกอย่างมันสะท้อนจากการที่เรา 'มอง' ตัวเอง ตั้ง 'Position' ตัวเองยังไง
ดังนั้น #stopbodyshaming หยุดปากปีจอเรื่องนี้กันเสียที ขอ #Support ค่ะ อีหอยยยยยยยยยย